รักยมเมตตามหาเศรษฐี น้องจิ้มลิ้ม น้องพลิ้มเพลา จัดสร้างโดย สำนักแม่ครูศรีเดวี และ พระคุ้มครอง

รักยมเมตตามหาเศรษฐี น้องจิ้มลิ้ม น้องพลิ้มเพลา

จัดสร้างโดย สำนักแม่ครูศรีเดวี และ พระคุ้มครอง

บูชาเป็นเสน่ห์ เมตตา มหานิยม โชคลาภ การเงิน ค้าขาย บารมี แคล้วคลาด ปลอดภัย เหมาะสำหรับ แม่ค้า พ่อค้า ศิลปิน งานบริการ

รักยม คืออะไร เช่ารักยม วิธีเลี้ยงรักยม คาถาบูชารักยม

ถ้าจะพูดถึงรักยมเครื่องรางของขลังที่เป็นที่นิยมกันในบ้านเรานั้น รักยมเป็นเครื่องรางของขลังที่เป็นที่นิยมกันมากชนิดหนึ่ง จะเห็นได้จากมีการสืบทอดตำราการสร้างตกทอดต่อเนื่องกันมานาน และปัจจุบันก็มีวัดที่มีวิชาอาคมทางด้านนี้สร้างให้สำหรับผู้ที่ต้องการเช่าบูชาได้บูชาไว้ติดบ้านเรือน ติดร้านค้ากัน

รัก-ยม จะมีลักษณะเป็นตุ๊กตาเด็กตัวเล็กๆสองตัวอยู่ติดกันอยู่ในขวดแก้วใส่น้ำมันจันหรือน้ำมันพราย โดยสมัยโบราณนิยมแกะตุ๊กตาเด็กจากไม้รักตายพรายกับไม้มะยมตายพรายที่มาจากป่าเพราะเชื่อกันว่าไม้ที่ตายพรายเหล่านี้มีวิญญาณหรือเทวดาดูแลอยู่ โดยรักยมของสำนักแม่ครูศรีเดวี และ พระคุ้มครอง จัดสร้าง จะเป็นการนำมวลสารมงคลทั้งหลาย มาบดผสมรวมกัน ปั้นเป็นรักยมขึ้นมา แล้วแช่ในน้ำมันทุกตน แล้วจึงนำมาเสกให้น้องมีตัวตน มีพลัง มีฤทธิ์ มีเดช มีอำนาจ และเป็นเด็กดี และคณะผู้จัดสร้าง ได้มอบน้องให้เป็นลูกเป็นหลานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พระแม่ย่า แม่นางเสือง เมืองสุโขทัย และ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ณ ต้นพิกุล วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร จอมทอง (ในนิทานพิกุลทอง แม่พิกุลทอง มีโอรส ๒ พระองค์ ชื่อรักและยม)

รัก-ยมที่ผ่านการปลุกเสกแล้วจะคุ้มครอง ช่วยเหลือผู้เลี้ยง เป็นของขลังค้าขาย เรียกลูกค้า ให้โชคให้ลาภ เมตตามหานิยม

ตามแต่ผู้เลี้ยงบนบอกขอตามความต้องการ

เรื่องเล่าเกี่ยวกับรักยม

สำหรับรักยมที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรตินั้น มีเกร็ดเรื่องเล่าที่ทำให้พิพิธภัณฑ์มีชีวิตชีวามากขึ้น เช่น ในวันที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์ในปี พ.ศ.2531 ทรงรับสั่งไว้เมื่อทอดพระเนตรรักยมว่า “ต้องมีของกินให้เขาด้วย” และอีกเรื่องหนึ่ง มีการเล่าต่อๆ กันมาว่า ยามที่เฝ้าพิพิธภัณฑ์ฯ ในช่วงเวลากลางคืนนั้นมักจะได้ยินเสียงเด็กๆวิ่งเล่นกันอยู่ในพิพิธภัณฑ์ฯ ยามบางคนถึงกับอยู่ไม่ได้ แต่หลายๆคนก็ถือว่าเป็นข้อดีกับพิพิธภัณฑ์ฯคือไม่เคยมีของหายเลย

ข้อคิดในเชิงวิชาการก็คือสังคมไทยเป็นสังคมที่นับถือผีควบคู่ไปกับพุทธศาสนา ในขณะที่พุทธศาสนาเน้นที่การชำระจิตใจของปัจเจก ในขณะที่ปัจเจกที่ยังมีจิตใจที่อ่อนแอและมีกิเลสก็ยังคงต้องพึ่งพลังเหนือธรรมชาติในการดลบันดาลให้ตนเองสมความปรารถนา การนับถือพุทธศาสนากับการนับถือผีจึงปะปนกันมาโดยตลอด การนับถือรักยมก่อให้เกิดคำถามที่ว่าทำไมต้องเป็นผีเด็ก เพราะเด็กอยู่ในโอวาทมากกว่าผู้ใหญ่ และคิดตรงไปตรงมามากกว่าผู้ใหญ่ ผู้เป็นเจ้าของจึงจัดการได้ง่าย

อ้างอิง

ดร. วินิจ วินิจนัยภาค, “การอนุรักษ์และการสะสมของเก่า” ใน หนังสือที่ระลึกในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

19กันยายน พ.ศ. 2533 กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2533 พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

มวลสารรักยม เมตตามหาเศรษฐี ผงพรายกุมาร ผงแก้วโป่งข่าม ผงข้าวตอกพระร่วง ผงเหล็กน้ำพี้ ผงแร่บุดดำบุดแดง ผงแร่เหล็กไหล ผงพระธาตุสีวลี ผงไม้รัก ผงไม้มะยม ผงไม้ผูกช้างตายพราย ผงไม้ผูกคอตาย ผงไม้มะขามฟ้าผ่า ว่าน ๑๐๘ ชนิด ว่านพุทธกวัก ว่านดอกทอง ว่านสาลิกา ว่านนางคำ ว่านเขาหลง ว่านช้างผสมโขลง ว่านห้าร้อยนาง ว่านนะหน้าทอง ฯลฯ

พิธีปลุกเสก ๕ วาระ

วาระที่ ๑ วันที่ ๒๖- ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

อาจารย์พรหม อ่างทอง สำนักบารมีพ่อแก่ อธิษฐานจิตหน้าหลวงปู่โต ใต้แสงจันทร์ คืนวันลอยกระทง มหาฤกษ์มงคล จันทร์ซ้อนจันทร์

วาระที่ ๒ วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖

คณะผู้จัดสร้าง พระคุ้มครอง อธิษฐานจิต อัญเชิญพระแม่ศักติ พหุชระมาตา พระแม่ธรณี เสกน้ำมันมหาเสน่ห์ สำหรับแช่รักยมทุกตน และบรรจุขวด

วาระที่ ๓ วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๖

แม่หมอแตงโม โอมศักติ สำนักแม่ครูศรีเดวี บ้านทรัพย์ไพรวัลย์ พิษณุโลก อธิษฐานจิต อัญเชิญบารมี พระแม่ย่า แม่นางเสือง เมืองสุโขทัย เสกกำหนดจิต อาการ ๓๒ รักยมเมตตามหาเศรษฐี

วาระที่ ๔ วันที่ ๑๘-๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖

อาจารย์ตุ้ย ห้วยทับทัน จอมขมังเวทย์เมืองศรีสะเกษ เมตตาอธิษฐานจิตให้เป็นเวลา ๓ วัน

วาระที่ ๕ วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๗ วันเด็กแห่งชาติ

อาจารย์พรหม อ่างทอง และคณะศิษย์ จัดสร้างพระสังกัจจายน์ ณ ไร่มหานพรัตน์เจดีย์

อธิษฐานมอบน้องจิ้มลิ้ม น้องพลิ้มเพลา ให้เป็นลูกศิษย์ พระสังกัจจายน์ หลวงพ่อเงินไหลมา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำไร่ ขอฝากให้อบรมสั่งสอนน้อง ให้เป็นเด็กดี มีคุณธรรม เป็นเจตภูตมงคล มอบความรุ่งเรืองให้กับผู้ที่รับไปบูชาทุกท่าน

การนำน้องจิ้มลิ้ม น้องพลิ้มเพลามาบูชาที่บ้าน

๑.จุดธูปขออนุญาต พระภูมิเจ้าที่ เจ้าทาง ใช้ธูป 16 ดอก จุดต่อหน้าศาลพระภูมิหรือจุดกลางแจ้งในรั้วบ้านจากนั้นแนะนำตัว

ข้าพเจ้า ชื่อ……………อยู่บ้านเลขที่……………………ขออนุญาต เจ้าที่ เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายในที่แห่งนี้ ที่ดูแลปกป้องรักษาที่แห่งนี้ที่ ข้าพเจ้าอยู่นี้ ขอจงเปิดทาง เข้า-ออก ให้รักยมที่ข้าพเจ้าได้พามาด้วยนี้ให้เข้าออกบ้าน หรือ ที่แห่งนี้ได้โดยสะดวก ข้าพเจ้าขอเลี้ยงรักยม เพื่อเสริมโชคลาภ เสริมทรัพย์ เสริมบารมี เฝ้าบ้าน ป้องกันภัย และช่วยค้าขาย ได้เลขเด็ด ให้ข้าพเจ้า รวยขึ้น ดีขึ้น เจริญขึ้นไป ขอเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย จงเปิดทางให้รักยมที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมานี้ เข้าออกที่นี่ได้สะดวกด้วยเถิด..

๒.จุดธูปบอกรักยมให้มาอยู่ด้วยกัน ใช้ธูป 5 ดอก ปักหน้าหิ้งรักยมตอนวางของถวาย

– ถ้าบนบานกับรักยมหรือขอให้ช่วย บูชารักยมใช้ธูป 5 ดอก

วิธี แนะนำตัวกับรักยม

พ่อชื่อ,แม่ชื่อ…………………….เป็นคนนำเจ้ามาเลี้ยงบูชา ต่อไปนี้เจ้าชื่อ………(ให้ตั้งชื่อรักยม)

พ่อ แม่ นำเข้ามาบูชาเพื่อให้เจ้าช่วย หาเงินหาทอง เฝ้าบ้าน ให้โชคให้ลาภ ลูกรักยม มาช่วยพ่อแม่ให้สมปรารถนาเถิด แล้ว พ่อ แม่ จะให้ของรางวัลลูกนะ เจ้าจงเชื่อฟังพ่อ แม่นะ ไปไหนก็ไปด้วยกัน กินอะไรก็กินด้วยกัน ไม่ต้องให้รอเรียก (นำ รักยมเข้า บ้านเข้าเรือน ให้แนะนำคนในบ้านให้รักยมรู้จักด้วย และบอกรักยมอย่าซน อย่าหนีเที่ยว อย่าอู้งาน จงทำงานให้พ่อ แม่ สมดังใจเถิด แล้วจะหาของรางวัลให้)

๓.ของถวายรักยมมีดังนี้

น้ำแดง น้ำเปล่า นม อาหารคาวหวาน น้องชอบขนมหวานต่างๆที่เด็กๆชอบกิน ชอบโดนัท

( แล้วแต่จะตกลงให้กี่ขวด วันไหนบ้าง ให้จุดธูปบอก แนะนำให้บอกว่าจะให้ทุกวันโกน หรือวันพระ )

ของเล่นต่างๆ หรือของรางวัลต่างๆ ของบนต่างๆ ของรางวัลพิเศษต่างๆ นอกจากของที่ถวายให้ประจำแล้ว (ให้เมื่อท่านได้ตามคำขอ)

สถานที่ตั้งบูชา ควรจัดเตรียมสถานที่ตั้งบูชาไว้ให้พร้อม ก่อนนำรักยมเข้าบ้าน ซึ่งควรจัดแยกหิ้ง หรือ ที่ตั้งบูชาแยกต่างหาก จากพระพุทธรูป – พระสงฆ์ และเทพองค์อื่นๆ ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า และ ไม่ต่ำจนติดพื้น สามารถตั้งรวมกับกุมารอื่นๆได้

(เคล็ดลับ เวลาจะกินข้าวก็เรียกให้กินด้วย หมั่นพูดคุยกับพวกเขา รักเขาเหมือนลูก เวลาจะไปไหนมาไหนก็เรียกให้ไปด้วย อุทิศส่วนกุศลให้เขาบ่อยๆโดยบอกให้อนุโมทนาบุญด้วย)

คาถาเรียกรักยม

เอหิกุมาโร เอหิกุมารี เอหิรักยม เอหิพรายทอง

ปิยังมะมะ ปุตตัง วะซายะติ อารักขานะ ปัจจะโย

เจ้ารักเจ้ายม กุมารทอง พรายทอง จงมา จงมา เอหิมะมะ

รักยมนั้นก็คือเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งที่มีวิญญานของเด็กสิงสถิตอยู่

คาถาเรียกรักยม ใช้เมื่ออยากให้กุมารทองช่วยอะไรก็บอกกล่าวไป และเมื่อเวลาที่เราจะไปไหนมาไหน ก็จะต้องเรียกให้เขาไปด้วยกับเราด้วย เวลาเราจะกินอะไร หรือเอามาให้เขากิน ก็จะต้องเรียกด้วยคาถานี้เช่นเดียวกัน ถ้ามีศัตรูหรือกำลังเดือดร้อน ก็เรียกให้เขาช่วยด้วย

คำสอนรักยมให้เป็นเด็กดี

(ระลึกถึงบารมีพระรัตนตรัยก่อน และตั้งนะโม 3 จบ)

เอหิรักยม เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ ลูกรักยม มานิมา ด้วยบารมีแห่งพระรัตนตรัย ขอให้ลูกรักยมของพ่อ/แม่ ที่อยู่กับพ่อ/แม่ ทุกดวงจิต

จงเป็นที่หนึ่งแห่งมหาภูติ มีอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่ โดยขอให้ลูกเคารพนับถือ ครูบาอาจารย์เป็นที่ระลึก และจงให้ความเคารพนับถือ พระแม่ธรณีเจ้าตลอดทั้งเจ้าที่เจ้าทาง ของทุกสถานที่ จงทำตน เป็นผู้นอบน้อม และอ่อนโยน ซึ่งจะทำให้ลูกของพ่อ/แม่ สามารถไปเที่ยวได้ ในทุกทิศ ไปได้ ในทุกสถานที่ ทุกบ้านทุกเรือน ขอให้ลูกของพ่อ/แม่ จงไปสู่จิตของทุก ๆ คนได้ และท่องเที่ยว ไปด้วยเดช มีฤทธิ์ มีอำนาจ แต่ต้องทำตนเป็นเด็กดี เป็นผู้มีคุณธรรม ด้วยอนุภาพ แห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เมื่อลูกได้ไปท่องเที่ยวแล้ว จงนำโชค นำลาภ นำเงิน นำทอง และสิ่งดีงาม กลับมาเพิ่มให้พ่อ/แม่ ของเจ้าด้วยทุก ๆ วัน ด้วยความรักอันดีต่อกัน ขอให้ลูกจงช่วยคุ้มครอง จงช่วยดูแลบ้านเรือน และเฝ้าทรัพย์สินที่เป็นของพ่อ/แม่ ให้ด้วย ขอให้ลูกจงเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อ/แม่ คุ้มครองพ่อ/แม่ ช่วยกันทำมาหากิน ช่วยกันค้าขาย ให้เงินทองไหลมาเทมา ไปไหนไปด้วยกัน กลับก็ให้กลับด้วยกัน ขอให้ลูกจงมีความสุข พร้อมด้วยพลังบารมี และด้วยอำนาจแห่งพระรัตนตรัย ขอให้พลังบุญที่พ่อ/แม่ ได้กระทำไว้ดีแล้ว และที่จะกระทำต่อไป จงส่งถึงลูกด้วย จะได้เป็นพลังส่งเสริมให้ลูก เป็นผู้ที่มีดวงจิตอันสว่าง เป็นผู้เบิกบาน และเป็นผู้มีบุญบารมี เพื่อสะสมไว้ มุ่งสู่ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ... สาธุ”

สนใจติดต่อ 061-632-3959

#พระคุ้มครอง

www.Phrakhumkrong.com